วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

12 อาหารเกาหลียอดฮิต


 
กิมจิ 

        เป็นผักดองประเภทหนึ่ง โดยการนำผักสดมาดองเค็มเพื่อถนอมอาหาร กิมจิจะมีสารอาหารที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายมาก อาทิ มีคอเลสเตอรอลต่ำ อุดมด้วยเส้นใยของผักและวิตามินซีและเอ เมื่อสมัยโบราณการทำกิมจินั้นมีเพียงรสเดียวเท่านั้นคือนำผักสดมาหมักกับเกลือทิ้งเอาไว้ ผักดองจะออกรสเค็มและเผ็ดเล็กน้อย บางแห่งที่อยู่ในเขตหนาวจัดจะหมักกิมจิในหิมะซึ่งจะได้ผักที่สดกรอบ กิมจิ จัดเป็นอาหารประเภท เครื่องเคียงที่ขึ้นโต๊ะอาหารได้ทุกมื้อ แถมยังกินกับอาหารชื่อดังจานอื่น ๆ ได้อีก อาทิ แกงกิมจิ , กิมจิข้าวผัด , กิมจิกับราเมน เป็นต้น



คาลบี ต้นตำหรับอาหารเลื่องชื่อของประเทศเกาหลี

      เป็นซี่โครงหมูย่างที่ผ่านการหมักจนได้ที่ นำมาย่างบนเตาถ่านร้อนๆ ให้สุกกำลังดีแล้วตักชิ้นพอดีคำ รับประทานกับซอสเกาหลี กระเทียม กิมจิ และใช้ใบผักกาดหอมหรือใบงา ห่อเป็นคำๆคล้ายเมี่ยงคำ แกล้มด้วยพริกเกาหลีเม็ดโตสีเขียวสด พร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ และเครื่องเคียงต่างๆ น้ำจิ้มเต้าเจี้ยว และน้ำซุปสาหร่าย



ทัคคาลบี Takkalbi เป็นอาหารขึ้นชื่อของเมืองชุนชอน

        เป็นเนื้อไก่ที่หั่นออกมาเป็นชิ้นพอคำ คลุกเคล้าด้วยเครื่องปรุงและหมักไว้จนได้ที่ เมื่อรับประทานจะนำมาผัดบนกระทะยักษ์ พร้อมด้วย Rice cake หรือเส้นก๋วยเตี๋ยวแบบหนานุ่มของเกาหลีมาผัดให้เข้ากัน และสุดท้ายเอาข้าวมาผัดทานเป็นข้าวผัดได้อีกด้วย แกล้มด้วยสาหร่าย โอเด้ง (เนื้อปลาผสมแป้ง) กิมจิ พร้อมข้าวสวยร้อนๆ



ชาบู ชาบู sha-bu sha-bu

     สุกี้สไตล์เกาหลีบนหม้อไฟร้อน ๆ ประกอบด้วยหมูสไลซ์ ผักบำรุงสุขภาพ เห็ดต่างๆ น้ำซุปร้อนๆ และเส้นอุด้งซึ่งขาดไม่ได้ในการทานชาบู พร้อมข้าวสวย น้ำจิ้มซีอิ๊วเกาหลี และเครื่องเคียงต่างๆ



บิบิมบัพ Bibimbup 

       ข้าวผัดแบบเกาหลีเป็นหม้อหิน ข้าวสวยเกาหลีในหม้อหินร้อนๆ สาหร่ายทะเล ไข่ดาว ต้นหอม แครอท ถั่วงอก เห็ด คลุกเคล้าให้เข้ากันกับซอสพริเกาหลี กลิ่นหอมของข้าวที่ระอุในหม้อหิน ชวนน่ารับประทานอย่างยิ่ง



พูเดจิเก

     มีลักษณะคล้ายแกงส้ม ประกอบด้วยหมู ไส้กรอก ผักบำรุงสุขภาพต่างๆ เส้นมาม่าหรือเส้นอุด้งซึ่งขาดไม่ได้ นำไปต้มให้เดือด แล้วใส่ซอสพริกเกาหลี ส่วนผสมอื่นๆ คลุกเคล้ากันจนได้ที่ เสิร์ฟพร้อมด้วยข้าวสวย และเครื่องเคียงต่างๆ



บุลโกกิ 

    เป็นหมูที่หมักจนได้ที่แล้วนำมาใส่บนกระทะ ผัดกับกระหล่ำปลีและวุ้นเส้นของเกาหลี มีน้ำขลุกขลิกออกรสหวานเล็กน้อย เสิร์ฟพร้อมด้วยข้าวสวย และเครื่องเคียงต่างๆ



บาร์บีคิวเกาหลี

     เป็นหมูที่ผ่านการหมักด้วยซีอิ๊วและเครื่องปรุงจนได้ที่ แล้วนำมาย่างบนเตาถ่านร้อนๆ รับประทานกับผักกาดหอม กระหล่ำปลี ซอสเกาหลี กระเทียม กิมจิ เกาหลี มีน้ำขลุกขลิกออกรสหวานเล็กน้อย เสิร์ฟพร้อมด้วยข้าวสวย น้ำซุปสาหร่าย และเครื่องเคียงต่างๆ



ซัมเคทัง หรือไก่ตุ๋นโสม


     ตำรับชาววังไว้บำรุงสุขภาพ ใช้ไก่ที่อายุพอเหมาะกับการรับประทาน (อายุ 45 วัน) ท่านละ 1 ตัว ก่อนอื่นให้ล้างเครื่องในออกให้หมดแล้วยัดไส้ด้วยของบำรุง อาทิเช่น เม็ดพุทราแห้ง รากโสมเกาหลี เก๋ากี้ รับประทานพร้อมกับข้าวซึ่งใส่อยู่ภายในตัวไก่ และเสริมรสชาติด้วยเส้นอุด้ง ปรุงรสด้วยพริกไทย และเกลือป่นของเกาหลี เสิร์ฟพร้อม Ginseng wine เป็นโซจูดองโสมเพื่อบำรุงร่างกายให้คึกคักกระปรี้กระเปร่า


จับเช

      เป็นอาหารที่คนเกาหลีชอบโดยนำผักที่ชอบหรือที่มีตามฤดูกาลมาผัดรวมกันโดยใส่น้ำมันเล็กน้อย แล้วใส่เนื้อวัวที่หั่นชิ้นเต็มคำ และนำไปผัดกับวุ้นเส้นเกาหลี เมื่อเส้นและส่วนผสมผัดจนสุกดีแล้ว จึงนำมาคลุกเคล้าเพิ่มรสชาติด้วยซอสถั่วเหลือง น้ำตาล และน้ำมันงา



ต็อกกุก

     เป็นซุปต็อกที่นิยมรับประทานกันในฤดูใบไม้ร่วงจนถึงฤดูหนาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันซอลลัล (วันหยุดช่วงวันปีใหม่) ต็อกซึ่งทำมาจากข้าวจะนำมาต้มรวมกับน้ำซุปกระดูกวัว คนเกาหลีเชื่อว่าถ้ายังไม่ได้รับประทานต็อกกุกในช่วงปีใหม่นั้นก็จะถือว่ายังไม่โตขึ้นไปอีกหนึ่งปี


โสม

      เป็นพืชสมุนไพรโบราณที่มีราคาแพงที่สุด รู้จักกันเป็นอย่างดีในประเทศจีนและเกาหลีว่าเป็น ราชาแห่งสมุนไพรชาวเกาหลีโบราณเชื่อกันว่า มันเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มพลังทางเพศและความสามารถในการสืบลูกหลานรวมทั้งช่วยทำให้มีชีวิตยืนยาว ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งคงทนของร่างกาย ลดความเครียดหรือความเป็นพิษทางกายภาพ เคมี หรือชีวภาพ และช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพทั้งทางร่างกายจิตใจ เกาหลีเป็นหนึ่งในสามของโลกที่สามารถปลูกโสมได้ โสมที่ดีที่สุดของเกาหลี คือโสมที่มีอายุ 6 ปี ปัจจุบันมีการนำโสมมาสกัดและบด เพื่อให้สะดวกแก่ผู้บริโภคและเป็นสินค้าที่รัฐบาลให้การสนับสนุนในการเผยแพร่ และส่งออกไปขายยังต่างประเทศอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก Charmtour.co.th



6 สถานที่เที่ยวยอดฮิตในกรุงโซล

6 สถานที่เที่ยวยอดฮิตในกรุงโซล ที่ห้ามพลาดเด็ดขาด !!

 

1. หมู่บ้านบุกชอนฮันอ๊ก (Bukchon Hanok Village)

          หมู่บ้านบุกชอนฮันอ๊กแห่งนี้ ตั้งอยู่ระหว่างพระราชวังเคียงบ๊อคกุง ( Gyeongbokgung Palace) และพระราชวังชางด๊อกกุง (Changdeokgung Palace) ในอดีตเป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก ๆ เพราะเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าบรรดาขุนนางระดับสูง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงมรดกทางวัฒนธรรมที่มีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์โชซอน ซึ่งคนพื้นถิ่นจะเรียกหมู่บ้านแห่งนี้แบบง่าย ๆ สั้น ๆ ว่า "หมู่บ้านบุกชอน" ซึ่งในภาษาเกาหลีจะหมายถึงหมู่บ้านทางเหนือนั่นเอง


 

2. ย่านวัฒนธรรมอินซา-ดง (Insa-dong Culture District)

          เรื่อย ๆ มาเรียง ๆ เดินจากหมู่บ้านบุกชอนฮันอ๊กลงมาทางใต้ประมาณ 10 - 15 นาที คุณก็จะเจอกับย่านวัฒนธรรมอินซา-ดง ที่มีทั้งห้องแสดงงานศิลปะ ร้านขายเครื่องแกะสลักแบบพื้นเมือง ร้านขายวัตถุโบราณ ภัตตาคารและร้านน้ำชาตามแบบเกาหลีดั้งเดิม ซึ่งนับเป็นสถานที่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสกับวัฒนธรรมเกาหลีแบบดั้งเดิมแท้ ๆ นอกจากนี้ ที่นี้ยังเป็นแหล่งวัตถุโบราณ ทั้งภาพเขียนเก่าแก่ งานเครื่องปั้นดินเผา งานกระดาษ และเครื่องเรือนเก่าอีกด้วย

 พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace)

3. พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace)

          พระราชวังแห่งนี้เป็นศูนย์กลางการปกครองในสมัยราชวงศ์โชซอน  ในเขตพระราชวัง ประกอบไปด้วยพระที่นั่งต่าง ๆ มากมาย เช่น ห้องประทับของกษัตริย์และพระราชินี ห้องทรงพระอักษร ท้องพระโรง สวนกลางแจ้ง นอกจากนี้ยังมีพระตำหนักเคียวฮเวรู ที่มีลักษณะเป็นอาคารสองชั้น พระตำหนักถูกสร้างให้ยื่นออกไปกลางสระน้ำ เพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับจัดงานเลี้ยงพระราชทานนสมัยนั้น

 

4. มยองดง (Myeongdong)

          ถ้าบ้านเรามีสยามสแควร์ เป็นแหล่งช้อปปิ้งของเหล่าวัยทีนทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องสำอางและอื่น ๆ ที่กรุงโซลก็มีย่าน มยองดง หรือเมียงดง เป็นแหล่งช้อปปิ้งเช่นเดียวกัน เพราะที่นี้ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางของสินค้าแบรนด์เนมมากมายหลากหลายยี่ห้อ และถ้าเดิน ๆ ช้อปปิ้งจนเริ่มรู้สึกหิวข้าวขึ้นมาแล้วล่ะก็ ไม่ต้องเป็นห่วงไป เพราะที่ก็เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยร้านอาหารชั้นเลิศมากมายเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่า "ช้อป", "ชิม", "เที่ยว" มีอยู่ที่นี่ครบ!

 

5. ตลาดนัมแดมุน (Namdaemun Market)

          เปลี่ยนบรรยากาศการช้อปปิ้งของหรู ๆ จากย่านเมียงดง มาช้อปปิ้งที่สำเพ็งบ้านเรา เอ๊ย! ล้อเล่นครับ เปลี่ยนมาเป็นตลาดนัมแดมุนต่างหาก เพราะตลาดนัมแดมุนถือเป็นแหล่งค้าขายสินค้าต่าง ๆ ในราคาถูกและซื้อ - ขายในราคาส่งกันจำนวนมาก ที่นี่มีร้านค้ามากมายให้คุณได้เลือกจับจ่ายซื้อของมากหลายพันร้านค้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขอเตือนไว้สักนิดว่าหากใครที่ชอบต่อราคาสินค้า ก็ขอให้ระมัดระวังหรือไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน เพราะพ่อค้าแม่ค้าที่นี่ ไม่เคยปรานีใครง่าย ๆ เหมือนกันนะจ๊ะ...จะบอกให้

 รถไฟใต้ดิน (Subway)

6. รถไฟใต้ดิน (Subway)

          ไหน ๆ ก็ไปถึงกรุงโซลกันแล้ว คุณก็ไม่ควรพลาดที่จะสัมผัสกับวิถีชีวิตของผู้คนด้วยการขึ้นรถไฟใต้ดินในกรุงโซลนั่นเอง การใช้บริการรถไฟใต้ดินในกรุงโซลนั้น ถือเป็นสิ่งจำเป็นและจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปได้มาก แต่อย่างไรก็ดี หากจะใช้บริการรถไฟใต้ดินแล้วล่ะก็ กรุณาพกแผนที่และแผนผังของสถานีต่าง ๆ ติดตัวเอาไว้ด้วยนะครับ เพราะที่กรุงโซลมีสถานีรถไฟใต้ดินเป็นร้อย ๆ สถานีเลยทีเดียว แถมยังแบ่งเส้นทางอีกตั้ง 8 สาย และเชื่อมต่อสถานีไปที่ต่าง ๆ อีกมากมาย ฉะนั้นแล้วอย่าได้ทำแผนที่หายเป็นอันขาดล่ะ

Thank for Credit : Kapook.com

วันพุธที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Culture of KOREA


20 วัฒนธรรมสำคัญของเกาหลี

ฮันบก  :  ชุดแต่งกายตามประเพณีชาติ เกาหลี
ฮันบก ของผู้หญิงประกอบด้วย กระโปรงพันรอบตัว เรียกว่า ชิมา และเสื้อ ชอกอรี ซึ่งคล้ายเสื้อแจ็คเก็ตฮันบกของผู้ชายประกอบด้วยชอกอริเช่นกัน แต่สั้นกว่าของผู้หญิง และมีกางเกงเรียกว่า บาจิ ทั้งชุดของผู้หญิงและผู้ชายสวมคลุมทับด้วยเสื้อคลุมยาวเรียกว่า ตุรุมากิ ปัจจุบันนี้ชาว เกาหลี นิยมสวมชุดแต่งกายประจำชาติในงานเทศกาล หรือในงานพิธีต่างๆ เช่นพิธีแต่งงาน พิธีศพ





กิมจิ และ บุลโกกิ  :  อาหารเพื่อสุขภาพ
บุลโกกิ แปลตามศัพท์หมายความว่า เนื้อย่าง เป็นอาหารที่นิยมรับประทานในหมู่ชาว เกาหลี ในขณะที่กิมจิซึ่งเป็นผักดองรสจัดชนิดหนึ่ง ใช้รับประทานกับบุลโกกิมีรสไม่จัด ทำจากเนื้อสัตว์ได้หลายชนิด ที่นิยมมากที่สุดคือเนื้อวัวและเนื้อหมู
เครื่องปรุงมีส่วนสำคัญที่ทำให้บุลโกกิและกิมจิมีรสชาติตามต้นตำรับ กิมจิ ทำจากผักได้หลายชนิด ที่นิยมได้แก่ผักกาดและหัวผักกาด วิธีการทำ นำผักมาดองในน้ำเกลือแล้วเทน้ำเกลือออกให้ผักแห้งพอหมาด แล้วคลุกด้วยเครื่องปรุง กิมจิเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง มีคอเลสตอรอลต่ำ และยังมีเส้นใยอาหาร รวมทั้งมีวิตามินมากกว่าแอปเปิล จึงมีมีผู้กล่าวว่า กินกิมจิวันละนิดหน่อย ไม่ต้องคอยไปหาหมอ"



ฮันกึล  :  อักษร เกาหลี
ตัวอักษร เกาหลี ถูกประดิษฐ์ขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 15 โดยพระเจ้าเซจองแห่งราชวงศ์โชซอน ประกอบด้วยพยัญชนะ 14ตัว และสระ 10 ตัว การผสมกันระหว่างสระและพยัญชนะทำให้สามารถสร้างคำได้นับพันคำ เพราะตัวอักษรฮันกึลไม่มีความสลับซับซ้อนและมีจำนวนไม่มาก ภาษาเกาหลีสามารถเรียนรู้ได้ง่าย ปัญหาการไม่รู้หนังสือจึงหมดไปจาก เกาหลี


จองเมียว เชอแยก  :  ดนตรีจองเมียวในพิธีสักการะบรรพบุรุษ
ในวันอาทิตย์แรกของเดือนพฤษภาคมของทุกปี ลูกหลานของตระกูลชอนจู ยี ซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์กษัตริย์โชซอน (1392  1910) จะประกอบพิธีสักการะบรรพบุรุษที่ศาลเจ้าจองเมียว ใน กรุงโซล
แม้ว่าพิธีนี้จะกระทำโดยย่อแล้วก็ตามยังมีเครื่องดนตรีที่ใช้ประกอบพิธีดังกล่าวนี้ทั้งหมด 19 ชนิด ซึ่งประกอบด้วยระฆังหิน กระดิ่งทองเหลือง และกลองชนิดต่างๆ เครื่องดนตรีเหล่านี้ใช้บรรเลงบทเพลงประกอบพิธีกรรมดังกล่าวโดยเฉพาะ




หน้ากากและการแสดงระบำหน้ากาก
หน้ากากภาษา เกาหลี เรียกว่า ทัล ซึ่งทำจากกระดาษ ไม้ ผลน้ำเต้าและขนสัตว์ หน้ากากเหล่านี้จะสะท้อนถึงโครงสร้างหน้าตาของคน เกาหลี แต่หน้ากากบาง X ยถึงเทพเจ้ากับอมนุษย์ ความจริงกับมโนภาพลักษณะของหน้ากากนั้นมีรูปร่างที่ผิดธรรมชาติไปมากเพราะว่า ทัลชุม เป็นการแสดงระบำหน้ากากแสดงตอนกลางคืนโดยใช้แสงสว่างจากกองไฟ
ระบำหน้ากากเป็นศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน ได้พัฒนาโดยชาวบ้านที่มีเชื้อสายโชซอน ที่มีความรู้สึกถึงความขัดแย้งในการปกครองจากชนชั้นสูงในสังคมส่วนใหญ่แล้วผู้แสดงและผู้ชมมักมีส่วนร่วมในตอนท้ายของการแสดง


โสมเกาหลี
โสมเป็นพืชที่นิยมปลูกกันทั่วไปในเกาหลี ซึ่งมีภูมิอากาศและสภาพดินดีเหมาะกับการปลูกโสมที่มีคุณภาพดีที่สุดในโลก โสมเกาหลีมีชื่อเรียกเฉพาะว่า โสมกอริโย (GORYEO GINSENG) ซึ่งตั้งตามชื่อของราชวงศ์กอริโยโบราณ เพื่อให้ต่างจากโสมที่นำไปปลูกตามที่ต่างๆทั่วโลก และชื่อประเทศเกาหลีที่เป็นภาษาอังกฤษว่า KOREA ก็ได้มาจากชื่อนี้
โสมรับประทานเป็นยาบำรุงร่างกาย หรือเป็นยาเจริญอาหาร เชื่อกันว่าโสมทำให้กล้ามเนื้อต่างๆ และร่างกายแข็งแรง ช่วยกระตุ้นหัวใจ ป้องกันโรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร เป็นยาชูกำลังและช่วยระงับประสาท โสมเป็นตัวยาสำคัญสำหรับการแพทย์แผนโบราณทางตะวันออก แต่ชาวเกาหลีนิยมดื่มโสม เช่นเดียวกับการดื่มชาหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์





วัดบุลกุกซา และถ้ำซอกกุรัม
วัดบุลกุกซาเป็นวัดใหญ่และสวยที่สุดในเกาหลี ตั้งอยู่ที่เกียงจู เมืองหลวงของอาณาจักชิลลา (57 ปีก่อนคริสต์ศักราช ค.ศ. 935) วัดบุลกุกซา ก่อสร้างโดยกษัตริย์บิวเพิง (ครองราชย์ 514  540) เป็นกษัตริย์พระองค์แรกแห่งราชวงศ์ชิลลา ที่เลื่อมใสพระพุทธศาสนา พระองค์ได้ทรงสวดมนต์ภาวนาขอให้อาณาจักรของพระองค์มีความอุดมสมบูรณ์และความสงบร่มรื่น
โครงสร้างของวัดที่ปรากฏในปัจจุบันนี้ได้มีการสร้างขึ้นใหม่ทดแทนของเก่าเมื่อ 751 มาแล้ว แต่เดิมนั้นวัดนี้มีอาคาร 86 หลัง ซึ่งมากกว่าในปัจจุบันถึง 10 เท่า บนภูเขาด้านหลังวัด มีถ้ำหินที่มนุษย์สร้างขึ้นเรียกว่าถ้ำซอกกุรัมถือว่าเป็นถ้ำที่สวยที่สุดถ้ำหนึ่งในโลก
ถ้ำซอกกุรัม ประกอบด้วยห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าสำหรับนั่งพัก ภายในมีห้องโถงกลม มีโดมอยู่ตรงกลาง และถัดไปเป็นทางผ่านรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า องค์การ UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนให้วัดบุลกุกซา และถ้ำซอกกุรัม เป็นมรดกโลกเมื่อปี 1995


ภูเขาซอรักซัน
เกาหลีมีภูเขาที่สวยงามสองลูก ลูกหนึ่งอยู่ทางใต้ ชื่อภูเขาซอรักซัน อีกลูกหนึ่งอยู่ทางเหนือ ชื่อ ภูเขากึมกังซัน ซอรักซันเป็นเทือกเขาทางใต้สุดยาวเป็นแนวเดียวกันกับกึมกังซัน หรือภูเขาเพชร ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือ
ป่าบนภูเขาซอรักซันซึ่งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,708 เมตร เป็นป่าที่มีพันธุ์ไม้ใบหลายชนิด และต้นสนนานาชนิด พันธุ์ไม้บนยอดเขานี้มีประมาณ 939 สายพันธุ์ มีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 25 สายพันธุ์ นก 90 ชนิด สัตว์เลื้อยคลาน 11 ชนิด สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ 9 ชนิด แมลง 360 ชนิด และสัตว์น้ำ 40 ชนิด


ศิลปินชาวเกาหลี
ชาวเกาหลีเป็นผู้ที่มักจะแสดงออกถึงความสามารถทางด้านดนตรีและศิลปะ นักไวโอลินชื่อ ซาราห์ ชาง ได้บันทึกแผ่นเสียงการบรรเลงไวโอลินชุดแรกของเธอเมื่ออายุ 9 ขวบ นอกจากนี้ยังมีนักไวโอลินที่มีชื่อเสียงคือ ชุงคยองฮวา ซึ่งเป็นนักไวโอลินที่มีชื่อเสียงและมีความสารรถมากมาตลอด 25ปีที่ผ่านมา
โจซูมิ เป็นนักร้องเสียงโซปราโน ซึ่งวาทยการ เฮอร์เบิร์ด วอน คาราจัน ได้ยกย่องเธอว่าเป็นนักร้อง เสียงพระเจ้าประทาน"
อาจจะเป็นที่น่าประหลาดใจว่า แบกนัมชุน ชาวเกาหลีที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น บิดาแห่งศิลปะวีดิทัศน์ นั้นเคยเป็นนักดนตรีและนักแต่งเพลงมาก่อน
ในปี 1963 แบกนัมชุน เป็นคนแรกที่นำเสนอผลงาน พรีแพริด โดยใช้โทรทัศน์เป็นสื่อ หลังจากนั้นผลงานของเขามีอิทธิพลต่องานศิลปะร่วมสมัย ซึ่งเชื่อมโยงวีดีโอและโทรทัศน์กับโลกของศิลปะ สื่อ เทคโนโลยี วัฒนธรรมสมัยใหม่และศิลปะประเภท อะวอง การ์ด

มรดกทางการพิมพ์
การพิมพ์แม่พิมพ์ไม้ของเกาหลีเริ่มเมื่อศตวรรษที่ 8 ตัวพิมพ์โลหะชิ้นแรกของโลก พัฒนาโดยชาวเกาหลีก่อนกูเดนเบิร์ก ของเยอรมนีกว่า 200 ปี
ชาวเกาหลีสมัยราชวงศ์กอริโย (918  1392) ได้สร้างพระไตรปิฏกฉบับเกาหลีขึ้นในศตวรรษที่ 13 ซึ่งถือว่าเป็นพระคัมภีร์แม่พิมพ์ไม้เก่าแก่ที่สุดในโลก และองค์การ UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี1995
           

เครื่องดนตรีตามประเพณีเกาหลี
เครื่องดนตรีตามประเพณีเกาหลีมีประมาณ 60 ชนิด ที่ได้มีการสืบทอดกันจนถึงปัจจุบันเครื่องดนตรีเหล่านั้น มีทั้งพิณ 12 สาย เรียกว่า กายากึม และพิณ 6 สาย เรียกว่า กิวมันโก พิณทั้งสองชนิดนี้เชื่อว่าน่าจะมีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 6
เครื่องดนตรีเกาหลีแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ เครื่องสาย เครื่องเป่า และเครื่องตี คิมดุกซู ซามัลนอริ วงดนตรีประกอบด้วย เครื่องดนตรีประเภทเครื่องตีสี่ชิ้นที่มีชื่อเสียงมากทั้งในเกาหลีและต่างประเทศ ซึ่งเป็นการผสมผสานกันระหว่างบทเพลงเก่าและบทประพันธ์ใหม่ๆ ทำให้เกิดเป็นผลงานทางดนตรีในมิติใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว


ดันชอง  :  รูปแบบการตกแต่งอาคาร
ดันชอง หมายถึง การตกแต่งอาคารและสิ่งของอื่นๆ ด้วยสีต่างๆ ตามสไตล์เกาหลีแสดงถึงความสวยงามและความมีสง่า ภูมิฐาน
ดันชองใช้สี 5 สี คือ สีแดง สีน้ำเงิน สีเหลือง สีดำ และสีขาว นอกจากนี้ดันชองจะประดิษฐ์ขึ้นเพื่อให้มีความสวยงามแล้วและยังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ อีกคือ เป็นการรักษาพื้นผนังของอาคารและปกปิดวัสดุที่นำมาก่อสร้างบางอย่างที่ดูไม่งามตาไม่สวยงาม ในขณะเดียวกันก็ทำให้อาคารดังกล่าวโดดเด่นมีความสง่างามยิ่งขึ้น ส่วนใหญ่แล้วดันชองใช้กับอาคารสถาปัตยกรรม รวมทั้งวัดวาอารามทั้งในกรุงโซลและภูมิภาคต่างๆ ของเกาหลี

รูปแบบลวดลาย
รูปแบบลวดลายต่างๆ นั้นมีที่มาจากรูปภาพแสดงความหมายต่างๆในสมัยก่อน โดยที่รูปแบบลวดลายเหล่านั้นเป็นเครื่องบ่งบอกถึงความต้องการที่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตมนุษย์ อารมณ์ ความรู้สึกต่อสิ่งที่อยุ่รอบตัวแล้วพัฒนามาเป็นรูปแบบของศิลปะการตกแต่ง
ในบรรดารูปแบบลวดลายต่างๆ ที่ใช้เป็นสัญลักษณ์ประจำชาติของเกาหลี คือมังกร และนกฟินิกซ์ และ แทกึกสัญลักษณ์นี้ใช้ในธงชาติเกาหลีหมายถึงสิ่งที่แตกต่างหรือตรงข้ามกัน 2 อย่างระหว่า อึม กับ หยาง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความสงบเยือกเย็นกับการเคลื่อนไหว ความอ่อนแอดกับความแข็งแรง ความมืดกับความสว่างและเพศชายกับเพศหญิง รูปแบบเหล่านี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของความมีชีวิตยืนยาว 10 อย่าง คือ หิน ภูเขา น้ำ เมฆ ต้นสน เต่า กวาง นกกะเรียน เห็นราที่ไม่มีวันตาย และพระอาทิตย์


ชาซุ  :  การเย็บปักถักร้อย
การเย็บปักถักร้อย ผ้าและวัสดุตกแต่งประดับประดาต่างๆ เช่น ม่าน นั้นนิยมใช้กันอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ยังใช้สำหรับตกแต่งสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านเรือ เช่น ปลอกหมอน ซองแว่นตา กล่องบุหรี่ ที่ใส่ช้อน ตะเกียบ และแปรง
สามัญชนไม่อนุญาตให้ใช้เสื้อผ้าที่มีการถักทอเป็นลวดลาย ประเภทนี้นอกจากใช้ในพิธีแต่งงาน แต่สำหรับชาซุที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนานั้น ใช้ผ้าที่มีการเย็บปักถักร้อย เป็นลวดลายที่แตกต่างจากการใช้เพื่อประดับประดา ผ้าดังกล่าวใช้ตกแต่งวัด พระพุทธรูปด้วยความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา

งานฝีมือทำจากกระดาษ
ชาวเกาหลีมีประเพณีที่เก่าแก่อย่างหนึ่งคือ การประดิษฐ์เครื่องใช้จากกระดาษ ซึ่งชาวเกาหลีนิยมใช้กระดาษที่ผลิตได้ในท้องถิ่นหรือผลิตได้ในพื้นบ้าน มาประดิษฐ์เป็นเครื่องใช้ต่างๆ เช่น ทำเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ถ้วยชามหลายขนาดที่มีฝาปิด ตะกร้า ถุงตาข่าย เหยือกน้ำ และถาดใส่ของ
นอกจากนี้ยังมีสิ่งประดิษฐ์จากกระดาษอีกมากมายเช่น กล่องเครื่องเขียน เสื่อ เบาะนั่ง ม่าน แล่ง กระบวย กระติกใส่แป้ง รองเท้า อ่าว และหม้อปัสสาวะ สิ่งประดิษฐ์ส่วนใหญ่จะถูกเคลือบด้วยวัสดุเคลือบผิว เพื่อทำให้ดูดี ทนทานและกันน้ำได้ ส่วนผสมของวัสดุเคลือบผิว ได้แก่ ส่วนผสมของน้ำมะพลับดิบ แป้งเปียกและน้ำมันเพอริลลา


บอจากิ  :  ผ้าห่อของ
บอจากิเป็นผ้าเย็บขอบสี่เหลี่ยมมีขนาดและสีต่างๆ ซึ่งชาวเกาหลีใช้สำหรับห่อของเก็บของหรือห่อของเพื่อการพกพา
บอจากิยังมีใช้อยู่บ้างแม้ว่าบอจากิจะใช้ในชีวิตประจำวันและแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมของเกาหลี
บอจากิแสดงถึงภูมิปัญญาของชาวเกาหลีที่ประดิษฐ์โดยแม่บ้าน จากสิ่งของเหลือใช้และเศษผ้าต่างๆ รูปแบบและลวดลายการเย็บปักถักร้อย ทำให้บอจากิ ดูมีเสน่ห์ สวยงาม สามารถพับเก็บได้ขนาดเท่ากับผ้าเช็ดหน้าเท่านั้น


ภาพวาดพื้นบ้าน


ภาพวาดพื้นบ้านนั้นเมื่อก่อนเป็นที่นิยมใช้อย่างกว้างขวางกันในหมู่ชาวเกาหลีโดยใช้ตกแต่งบ้านเรือนและเชื่อว่าภาพพิมพ์นี้จะทำให้ชีวิตมีความสุขตลอดไป
ในขณะที่ชาวเกาหลีชั้นสูงนิยมใช้ภาพพิมพ์ที่เป็นรูปทิวทัศน์ ดอกไม้และนก ภาพวาดนี้มักจะแทรกอารมณ์ขันและความเรียบง่ายของวิถีชีวิตในโลกนี้
แม้ว่าภาพวาดพื้นบ้านเหล่านี้จะเป็นผลงานของศิลปินพื้นบ้านแต่ผลงานเหล่านี้กลับเป็นที่นิยมของทุกชนชั้นในสังคม ตั้งแต่ระดับเชื้อพระวงศ์ วัดวาอาราม จนถึงชาวบ้านในชนบท ภาพวาดเหล่านั้นมีเอกลักษณ์ องค์ประกอบที่เด่นชัด รวมทั้งลักษณะการใช้แปลงและพู่กัน และการให้สีที่ฉูดฉาด


เซริ  : ประเพณีตามฤดูกาล
ประเพณีเซริ ซึ่งเป็นประเพณีที่เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมทางศาสนา ตรงกับวันที่เป็นการเปลี่ยนแปลงฤดูกาลโดยยึดถือตามปฏิทินทางจันทรคติ เช่น ในวันขึ้นปีใหม่ ชาวเกาหลีจะทำการสักการะบรรพบุรุษ โดยการเซ่นไหว้ด้วยอาหาร เครื่องดื่มและเครื่องเซ่นต่างๆ หลังจากนั้นมีเซเบ หรือการโค้งคาราวะต่อผู้ที่อาวุโสในครอบครัว สำหรับในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนอ้าย หรือที่เรียกว่าแดบอรึมนั้น จะมีการทำหุ่นฟางข้าว แล้วโยนลงในแม่น้ำ ซึ่งพิธีนี้ได้สูญหายไปจากหลายพื้นที่ในประเทศแล้ว แต่ประเพณีการกินเจ ยังกระทำอยู่โดยทั่วไป ในวันขึ้น 15 คำ เดือน 8 เป็นวันซูซอก เป็นวันแสดงความขอบคุณโดยลูกหลานจะไปไหว้บรรพบุรุษที่สุสาน อาหารพิเศษสำหรับวันนี้มีซองเพียนซึ่งเป็นขนมรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว ที่ใส่ งา ถั่ว ลูกเกาลัดหรือผักสดอื่น ๆ

พีธีเปลี่ยนวัย
ในเกาหลีนั้น เมื่อชาวเกาหลีเกิดมาจะมีประเพณีต่างๆ ตั้งแต่เกิดจนตาย เรียกว่า กวานฮนอซังเจ ซึ่งรวมถึงประเพณีบรรลุนิติภาวะ ประเพณีการแต่งงาน ประเพณีงานศพ และประเพณีการเซ่นไหว้บรรพบุรุษ ประเพณีบรรลุนิติภาวะ เป็นพิธีเรียบง่าย เด็กชายจะไว้ผมยาวและผูกจุก ได้รับกัดหรือหมวก ที่ทำด้วยหางม้า ส่วนเด็กหญิงจะถักผมเปียและทำมวยผม แล้วปักด้วยปิ่นปักผมโลหะ เรียกว่า บินยิว ส่วนประเพณีแต่งงานจัดขึ้นที่บ้านเจ้าสาว และเมื่อแต่งงานแล้วทั้งคู่จะอยู่ที่บ้านเจ้าสาวไปอีก 2-3 วัน แล้วจึงไปอยู่บ้านเจ้าบ่าว
ประเพณีงานศพ ของชาวเกาหลีเป็นพิธีที่มีขึ้นตอนมากมาย การไว้ทุกข์มักจะกระทำเป็นเวลา 2 ปี และมีระเบียบพิธีสวดมนต์ กราบไหว้ สักการะเป็นระยะตลอด 2 ปี ชาวเกาหลีได้สืบทอดประเพณีการเซ่นไว้บรรพบุรุษแสดงถึงความผูกพันระหว่างผู้ตายและลูกหลาน


สวน
แนวคิดหลักในการจัดสวน คือ การจัดสวนให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด หรืออาจพูดได้ว่า เป็นธรรมชาติมากกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งโดยส่วนมากแล้วจะเห็นได้ว่าผลงานที่ออกมาแสดงถึงภูมิปัญญาของชาวเกาหลี
แหล่งสวนโบราณที่ดีที่สุดมีการอนุรักษ์ไว้ คือ สระอันนับจิที่เกียงจู จังหวัดเกียงซังบุกโด นอกจากนี้ยังมีสวนที่สวยงามหาที่เปรียบมิได้คือ สวนในพระราชวังชังดอกกุง ในกรุงโซล มีเนื้อที่สวน 300,000 ตารางเมตร จากพื้นที่ทั้งหมด405,636 ตารางเมตร ของบริเวณพระราชวัง สวนนี้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถัน ประกอบด้วย ทางเดินและห้องโถงที่สวยงาม มีสระบัว ก้อนหิน สะพานหิน ทางเดิน ลำธารและน้ำพุ กระจัดกระจายอยู่ในป่า ซึ่งการจัดสวนแบบนี้เป็นการจัดสวนลักษณะประจำชาติของเกาหลี